วันอังคารที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

Review: Nissin Digital i40 แฟลชเล็ก ไฟแรง ฟังก์ชั่นครบ สำหรับกล้อง Mirrorless

คัดลอกบทความของคุณนิค อะธีลาส จากเว็บพันทิปมาแปะไว้ เนื่องจากกระทู้ต้นทางถูกลบไปโดยไม่ทราบสาเหตุ
กระทู้ ต้นฉบับ, Google cache
 


ปัญหาของการหาแฟลชมาใช้ร่วมกับกล้อง Mirrorless ตัวเล็กๆ ก็คือแฟลชส่วนมากมันตัวใหญ่โตเหลือเกิน เพราะออกแบบมาเพื่อกล้อง DSLR ที่ตัวโตๆ พอมาจับคู่กับกล้องจิ๋วๆ แล้วมันก็จะดูพิลึกๆ ที่แฟลชใหญ่กว่ากล้อง

จะหนีไปใช้แฟลชรุ่นเล็กก็จะได้กำลังไฟน้อยเกินไป แฟลชนิสชิน i40 ที่ออกมาใหม่ก็เลยกลายเป็นแฟลชที่อยู่ในความสนใจของคนเล่นกล้องมิเรอร์เลส เพราะมันเป็นแฟลชขนาดเล็ก แต่กำลังไฟสูง และยัง full compatible กับกล้องไม่แพ้แฟลชยี่ห้อกล้องอีกด้วย มีตรา TIPA Award 2014 ประเภท Best portable lighting system เป็นประกัน และออกแบบมาสำหรับกล้อง mirrorless ยอดนิยมทั้ง Olympus, Panasonic, Fujifilm, Sony มีแม้กระทั่ง Nikon และ Canon





ผมได้แฟลช i40 เวอร์ชั่นสำหรับ micro Four Thirds มาทดลองเล่นอยู่หลายสัปดาห์ เอาไปลองใช้ในสถานการณ์ต่างๆ เท่าที่คิดได้ว่าเจ้าของกล้อง mirrorless คนหนึ่งจะต้องการใช้แฟลชในงานระดับทั่วๆ ไป ก็เลยมีเรื่องมารีวิว มาเล่าให้ฟังกันบ้างพอสมควร



แฟลช Nissin เป็นแฟลชที่มีชื่อเสียงมานานตั้งแต่ในยุคฟิล์ม ถึงจะห่างหายจากการรับรู้ไปบ้างในยุค DSLR แต่เมื่อกล้อง mirrorless เฟื่องฟู นิสชินก็กลับมาอีกครั้ง และคราวนี้ออกแบบมาเพื่อคนใช้กล้องเล็กอย่างรู้ใจ

ที่บอกว่ารู้ใจนี่ผมหมายถึง คนใช้กล้องเล็ก ก็อยากได้แฟลชเล็กๆ จะมาใช้แฟลชตัวเบิ้มๆ มันก็ดูไม่สวยงาม และยังทำให้การจับถือกล้องแย่ลงอีกด้วย

ถึงจะอยากให้แฟลชเล็ก แต่ก็อยากได้แฟลชแรงๆ อยู่ดี และถ้ามีไฟสำหรับถ่ายวิดีโอด้วยก็ดี

แฟลชที่หัวแฟลชตายตัวปรับก้มเงยหันซ้ายขวาไม่ได้ไม่เอานะครับ มันมีข้อจำกัดเยอะ

สำคัญอีกเรื่องคือฟังก์ชั่นต้องครบๆ TTL, Hi-Speed Sync, Wireless Flash ต้องมีเหมือนแฟลชยี่ห้อกล้อง ลูกเล่นอื่นๆ แบบแฟลชยี่ห้อกล้องถ้ามีมาได้ก็แจ่มเลย



Nissin i40 ก็เลยจัดมาให้ครบแบบที่แฟลชดีๆ สมควรมี แต่ย่อขนาดตัวแฟลชลงจนเล็กน่ารักใส่กับกล้องมิเรอเลสเล็กๆ ได้ไม่ขัดเขิน พร้อมมีกระเป๋าแฟลชสำหรับติดเข็มขัดมาให้ด้วย สมศักดิ์ศรีแฟลชญี่ปุ่นชั้นดี ไม่ใช่เป็นแค่ถุงผ้าแบบแฟลชจีนราคาประหยัด

ในกระเป๋าจะมีตัวแฟลช ฐานเสียบแฟลชสำหรับวางพื้น มีเกลียวที่ฐานเพื่อติดขาตั้งกล้องได้ mini softbox ครอบหัวแฟลข ถ้าจะขาดอะไรไปก็คงเป็นเจลสีปิดหน้าแฟลชเท่านั้น



แฟลชอนาโตมี่แอนด์ฟิสิโอโลยี่

ว่าด้วยกายวิภาคศาสตร์ และสรีรวิทยาของแฟลช

โครงสร้างแฟลชดูดีแน่นหนาแข็งแรงใช้ได้ โครงแฟลชที่รองรับการหมุนก้มเงยหัวแฟลชก็เป็นโครงโลหะดูน่าไว้วางใจดี เวลาหันซ้ายขวาก้มเงยก็หันได้เยอะตามแบบแฟลชดีๆ ทั่วไป เสียงกริ๊กๆ นี่ใสกิ๊งเลย เสียงกลไกโลหะแน่นอน ไม่ใช่พลาสติกป๊อกแป๊กแบบแฟลชโนแนม

ฐานแฟลชก็เป็นโลหะไว้ใจได้ในการรับการเสียดสีถอดเข้าออกบ่อยๆ ล็อกกับปลดล็อกจากฮ็อทชูด้วยการกดปุ่มหดเดือยสปริง ซึ่งทำให้ถอดใส่แฟลชได้เร็วดี แต่ผมชอบแบบหมุนเกลียวล็อกมากกว่า อันนี้เป็นรสนิยมเฉพาะตัว



ด้านบนหัวแฟลชมีการ์ดกระจายแสงแบบบิลด์อิน ไม่ต้องหานามบัตรกับยางรัดมาใช้ เลื่อนเก็บได้ ล็อกด้วยระบบแม่เหล็กที่ด้านบนดีตรงไว้ใจได้ว่ามันจะไม่สึกหรอแบบใช้สลักล็อก เลื่อนง่าย ล็อกแนบเนียน ถ้าเลื่อนการ์ดออก ด้านล่างจะเป็นโค้ดบอกสีหลอดไฟด้านหลัง ว่าสีไหนแปลว่าหัวแฟลชซูมไปที่มุมกระจายแสงของเลนส์กี่มิลลิเมตร

มันซูมหัวแฟลชได้ทั้งแมนนวล และออโต้ เพียงแต่การซูมมันจะไม่คล่องแคล่วรวดเร็วเหมือนแฟลชมืออาชีพ ต้องใช้วิธีกดปุ่มเปิดปิดค้างไว้ แล้วแฟลชจะซูมไปที่ช่วงต่างๆ ไฟปุ่ม Test จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ บอกว่าซูมอยู่ที่ช่วงครอบคลุมทางยาวโฟกัสไหน โดยบอกเป็นทางยาวโฟกัสเทียบเท่ากล้อง full frame ซึ่งถ้าใช้กล้อง micro Four Thirds ก็หารสองเอาเลย ก็จะได้ทางยาวโฟกัสจริงๆ ของเลนส์ที่ใช้ ซึ่งในกลุ่มผู้ใช้ทั่วไปก็คงตั้งไว้ออโต้แล้วก็ใช้ไปจนชั่วฟ้าดินสลาย ไม่ได้ไปยุ่งกับมันหรอก เชื่อเหอะ



มีแผ่นกระจายแสงซ่อนไว้ด้านล่างของหัวแฟลช เผื่อต้องการให้แฟลชกระจายแสงกว้างกว่าเลนส์ 24 mm ซึ่งมันสามารถครอบคลุมได้กว้างสุดที่เลนส์ 16 mm ในกล้องฟูลเฟรม ซึ่งก็เท่ากับ 8 mm ของไมโครโฟร์เติร์ด กว้างเหลือเฟือสำหรับผู้ใช้ทั่วไป และเวลาใช้ wide panel นี้กำลังแฟลชมันจะลดลงนะครับเพราะแสงมันกระจายกว้างมาก อย่าลืมดึงออกมาปิดหน้าแฟลชค้างไว้ เดี๋ยวจะเปลืองแบต หรือถ่ายได้ไม่ไกลเหมือนเดิม



มันไฟแรง..


ไกด์นัมเบอร์ระบุไว้ 40 ที่ ISO 100, มุมกระจายแสง 105mm แต่จะเทียบกันว่ามันแรงมากน้อยกว่าแฟลชอะไร ตามหลักการแล้วเราจะเทียบกันที่ ISO 100 มุมกระจายแสงครอบคลุมเลนส์ 50mm เปิดตารางดูแล้ว i40 ที่ตัวเล็กแค่นี้ มีค่า GN อยู่ที่ 32 เทียบไหล่กันได้กับแฟลชยี่ห้อกล้องเลย

มันมีไฟถ่ายวิดีโอด้วย ถ้าแบตเต็มใช้ได้ประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง ผมไม่ได้ถ่ายวิดีโอเป็นจริงเป็นจังเลยไม่ได้ทดสอบอันนี้เท่าไหร่ ได้ลองใช้นิดๆ หน่อยๆ ก็พอแก้ขัดได้ในสภาพแสงที่ไม่ค่อยดี
มันเปิดสะดวกดี หมุนแป้นซ้ายให้สุดทาง กดปุ่มเปิด แค่นี้เอง คลำใช้งานในที่มืดสบายมาก ผมเลยเอาไว้ใช้เป็นไฟฉายมากกว่า มันสว่างดี เอาไว้ส่องหาของในกระเป๋ากล้อง กับในรถ ผิดจุดประสงค์การใช้งานไปหน่อย

อ้อ.. ในคู่มือบอกว่ามีไฟช่วยโฟกัสมาให้ด้วยนะครับ แต่เท่าที่ผมลองดูกับ Olympus OM-D E-M10 ไม่เคยเห็นไฟช่วยโฟกัสจากแฟลชออกมาซักกะที สงสัยกล้องมัน override การใช้งานหลอดไฟช่วยโฟกัสนี้ไปแล้ว ให้ใช้หลอดไฟจากกล้องอย่างเดียว



Compatibility การใช้งาน และความเข้ากันได้


แฟลชพูดคุยกับกล้องรู้เรื่องด้วยภาษาเดียวกัน ทำงานได้ประสานกันดี แสงสีออกมาได้ตามที่ควรเป็นค่อนข้างนิ่ง สีสัน ความสว่างของแฟลชไม่แกว่งเหมือนแฟลชโนเนม การปรับค่าก็เพิ่มลดได้ตามที่ต้องการดี ไม่เพี้ยน เวลาใช้งานก็ไม่ได้รู้สึกผิดปกติไปกว่าการใช้งานแฟลชยี่ห้อกล้องแต่อย่างใด


แยกแฟลชไร้สาย สั่งงานด้วย RC จากแฟลชหัวกล้อง วางแฟลชด้านข้างประมาณ Rembrandt



โหมดต่างๆ ในแฟลช มีมาให้พอเพียงแก่ความต้องการใช้งาน Manual, Full Auto, TTL, Wireless และ Slave มี hi-speed sync ให้ใช้ใน M, A, TTL เปิดและปิดการใช้งานโดยกดปุ่ม Test ที่มีไฟเขียวค้างไว้ 3 วินาที (ในคู่มือเรียกปุ่ม Pilot) ส่วน hi speed ในโหมด wireless จะควบคุมโดยกล้อง


แยกแฟลชไร้สาย เลนส์คิทซูมไปที่ 31mm แฟลชซูมไปที่ 53mm ให้แสงลงเฉพาะจุด แฟลชอยู่ตำแหน่งเกือบ loop



Slave ก็มีมาให้ทั้ง 2 แบบทั้งแบบ Slave Digital ที่จะไม่ยิงตอนพรีแฟลชทำงาน อั้นไว้ยิงตอนแฟลชจริงทำงาน กับ Slave Film ที่ยิงทันทีที่แฟลชหลักยิง

Wireless มีให้เลือกตั้งแฟลชได้ 3 กรุ๊ป แต่เลือกแชนแนลไม่ได้นะครับ


แฟลชหลักตั้งเหมือนเดิม แฟลชลบเงาเป็นแฟลชนิสชินแมนนวลสมัยฟิล์มที่มีติดบ้านอยู่ วางพื้นด้านซ้ายของกล้อง เปิด slave ยิงผ่านพุ่มไม้ไปที่ครึ่งหน้าครึ่งฉากหลัง

ป.ล. แสงโอเวอร์ไปหน่อย
ป.ป.ล. มีรูปน้องนาเดียแค่สองรูปนี่แหละ ที่เหลือถ่ายอย่างอื่น



User Interface

มีทั้งเรื่องดี และแย่ปนกัน

เรื่องดีคือมีแป้นหมุน 2 แป้น ที่เข้าใจได้ง่าย และปรับได้ง่าย ไม่มีปุ่มยุบยับดูน่ากลัว ใครจับแฟลชนี้ครั้งแรกก็น่าจะใช้ได้ทันทีโดยไม่ยากอะไร หมุนซ้ายเลือกโหมด หมุนขวาเพิ่มลดความสว่างแค่นั้นเอง

ส่วนที่ไม่ดีนิดหน่อยคือ ควรจะใช้โค้ดสีในแป้นหมุน ให้สอดคล้องกันเช่น M ก็ควรจะใช้โค้ดสีให้เหมือนกับตัวเลขของแป้นทางขวา แล้วแยก TTL ให้เป็นอีกสีหนึ่ง แต่อันนี้เป็นสีขาวเหมือนกันไปหมด มีแต่ไฟวิดีโอเท่านั้นที่ใช้โค้ดสีดูง่ายดี เป็นสีฟ้าทั้งโหมดที่แป้นซ้าย และความสว่างที่แป้นขวา

ส่วนที่ไม่ดีขึ้นมาหน่อยคือ ต้องสังเกตไฟ 4 หลอดนี้ว่ามันเป็นสีอะไรดวงไหนกระพริบ เพราะมันจะบอกว่าแฟลชกำลังทำงานโหมดไหนอยู่ อันนี้ต้องจำบ้าง แต่ถ้าไม่สนใจก็ไม่ได้เสียหายอะไรมากนัก

ส่วนที่ไม่ดีอีกนิดคือ ปุ่มเปิดปิด และปุ่ม pilot มันมีหน้าที่ซ้อนอยู่ในการซูม และเปิด hi-speed sync ซึ่งถ้าไม่ได้ใช้นานๆ มันลืมบ้างอะไรบ้าง และในความเป็นจริงผู้ใช้แฟลชนี้มักจะไม่ค่อยได้ใช้อะไรพวกนี้อยู่แล้ว ผมว่าเวลาจะใช้ไฮสปีดซิงค์ทีนึงคงลืมไปแล้วว่าต้องกดปุ่มไหน

แต่ที่แย่ที่สุด คือมันไม่มีไฟส่องสว่างที่แป้นนี้เลยครับ เอาไปถ่ายงานมืดๆ นี่ทำเอาหงุดหงิดไปเหมือนกัน เพราะไม่รู้ว่าแฟลชอยู่โหมดไหน ตั้งค่าความสว่างไว้บวกลบเท่าไหร่ ต้องคอยหาหลอดไฟมาส่องแป้นหลังแฟลชอยู่เรื่อย เรื่องนี้น่าจะเป็นข้อติเรื่องสำคัญที่สุด ที่ผมเจอในการใช้งานแฟลชนี้ อย่างอื่นใช้ได้ดี สบายมาก


ติดแฟลชที่หัวกล้อง ยิงตรงๆ นี่แหละ ผมลืมวิธีเปิด High Speed Sync อีกตะหาก ขนาดอ่านคู่มือมาก่อนแล้ว



โดยสรุปรวบตึง


  • เล็กดี เบาดี ไฟแรงดี มีไฟถ่ายวิดีโอ
  • ใช้ดีเหมือนแฟลชยี่ห้อกล้อง
  • ลูกเล่นมีเปี่ยม ปรับค่าง่าย ใช้งานง่าย
  • โครงสร้างแข็งแรง แต่หน้าตาเป็นมิตรดี
  • TTL, Hi-Speed Sync, Auto, Manual, Wireless, Slave มาครบ
  • accessories ครบถ้วน มีกระเป๋าเล็กๆ ใส่แฟลชและอุปกรณ์มาให้ด้วย

อยากให้มีไฟส่องหลังแฟลชมากๆ ตอนมืดๆ นี่ใช้งานยากชมัด

โค้ดลับไฟสลับสีด้านหลังนี่ต้องอาศัยความคุ้นเคยหน่อยถ้าจะดูให้เข้าใจ แต่ไม่ยักกะทำโค้ดสีตัวอักษรกับตัวเลขมาให้ครบๆ ด้วย

วิธีซูมหัวแฟลช กับไฮสปีดซิงค์ ต้องจำวิธีให้ดีนะครับ ไม่ได้ใช้นานๆ เดี๋ยวลืม ที่จริงที่ว่างใต้การ์ดกระจายแสงยังเหลือน่าจะใส่วิธีเปิดปิด Hi -Speed Sync ไว้ด้วยกันเลย จะได้ไม่ลืม


เปิด high speed sync ได้แล้วเย้.. แยกแฟลช RC ที่ 1/4000, f/2 กลางแดดเปรี้ยงๆ หน้าวัดเจดีย์หลวง



น่าใช้มั้ย?

เทียบกับแฟลชอิสระทั่วไป น่าใช้ครับ

ถ้าเทียบกับแฟลชยี่ห้อกล้อง ก็ยังมีจุดที่สู้ไม่ได้บ้าง สเป็คลูกเล่นอะไรต่างๆ อยู่ในระดับไล่หลัง Olympus FL600R ไม่ไกล แต่ไม่เหมาะกับคนที่ใช้ฟังก์ชั่นระดับมืออาชีพบ่อยๆ เช่นซูมหัวแฟลช ชดเชยแสง ปรับอะไรรีบๆ ด่วนๆ ใช้งานในที่มืดและต้องปรับค่าโน่นนี่เร็วๆ หรือการใช้งานหนักๆ ที่ยังต้องรอการพิสูจน์กันต่อไป

เหมาะไว้มีไว้เป็นแฟลชติดกระเป๋าสำหรับนักถ่ายภาพทั่วไปที่ไม่ค่อยปรับอะไรมากๆ โดยเฉพาะซูมหัวแฟลช หรือมีไว้ใช้กับกล้องประจำบ้าน และบวกคะแนนให้อีก หากเอาไปใช้กับกล้องพานาโซนิคที่หาแฟลชแจ่มๆ ใช้ยากเหลือเกิน

เรื่องสำคัญ ราคาเท่าไหร่.. ?

ไม่ทราบครับ ลืมถาม ตามบูทงานโฟโต้แฟร์คงมีโปรโมชั่นแหละ


แยกแฟลชไร้สาย ถ้าเป็นการถ่ายคนตำแหน่งแฟลชคงประมาณ short light



ภาพเต็มๆ ทั้งเซ็ต (เพิ่มเรื่อยๆ ตามความขยันมากน้อย)
https://www.facebook.com/dhapana/media_set?set=a.10205474779937558.1073741948.1492667919&type=3

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น