วันเสาร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2567

[FFMpeg] แปลงวิดีโอให้เป็นรูปภาพด้วย ffmpeg

โปรแกรม ffmpeg นอกจากจะแปลงไฟล์ภาพเป็นวิดีโอ ฝังซับไตเติ้ล ฯลฯ แล้ว ก็ยังสามารถแปลงไฟล์วิดีโอให้เป็นรูปภาพได้ด้วย การสั่งงานใช้รูปแบบคำสั่งว่า

ffmpeg -i input.mp4 -vf fps=1 out-%d.png

fps=1 หมายถึงให้ทำไฟล์ภาพละ 1 วินาที ถ้าหากวิดีโอเป็นแบบ 30 fps แล้วต้องการให้สร้างไฟล์ภาพออกมาทุกเฟรม ก็ใช้ว่า fps=30

out%d คือจะสร้างภาพด้วยชื่อไฟล์ว่า out- แล้วตามด้วยตัวเลข เช่น out-1.png out-2.png out-3.png ไปเรื่อยๆ แต่ถ้าต้องการให้ใส่ตัวเลขนำหน้าด้วย เช่นทำตัวเลขให้เป็น 4 หลัก ก็เขียนเป็น %04d เช่น out-%04d.png ก็จะได้เป็น out-0001.png out-0002.png out-0003.png


[ Reference ]

FFMPEG- Convert video to images


[ Keyword ]

แปลงวิดีโอเป็นรูปภาพ, convert video to image, convert video to picture, convert video to png, convert video to jpg

วันศุกร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2567

แปลงเอกสารด้วย Pandoc (ตอนที่ 3)

ก่อนหน้านี้เคยเขียนบล็อกเรื่องการแปลงเอกสารด้วย Pandoc ไปทั้ง ตอนที่ 1 และ ตอนที่ 2 แล้ว หลังจากที่พบว่าโปรแกรม Pandoc ที่ผมใช้อยู่มันเป็นเวอร์ชันที่เก่าแล้ว (2.7.x) มี bug เรื่องการแปลงฟอร์แมต markdown นิดหน่อย คือตัว ~~ ไม่แปลงเป็นตัวขีดฆ่า และไม่แปลงตัวหนาตัวเอนใน docx (แต่แปลงให้ใน odt) ก็เลยไปอัปเดตให้เป็น เวอร์ชันล่าสุด (วันที่เขียนบล็อก ล่าสุดคือเวอร์ชัน 3.3.1 - 29 Jul 2024) ซึ่งเวอร์ชันนี้มีบางจุดเปลี่ยนไปจากรุ่นก่อน เลยต้องมาเขียนบันทึกเพิ่ม

ผมใช้ Linux Mint (Ubuntu based) เลยดาวน์โหลดไฟล์ pandoc-3.3-1-amd64.deb มาติดตั้ง ถ้าใช้ Windows, Mac ก็เลือกตามระบบที่ใช้

การตรวจสอบเวอร์ชันของ Pandoc ที่ติดตั้งในเครื่อง ให้พิมพ์ว่า

pandoc -v หรือ pandoc --version


ดูพารามิเตอร์คำสั่งต่างๆ ให้พิมพ์ว่า

pandoc -h หรือ pandoc --help

ถ้ามีเวอร์ชันก่อนหน้าติดตั้งเอาไว้ ต้องลบของเดิมออกถึงค่อยติดตั้งเวอร์ชันใหม่ โดยพิมพ์ในเทอร์มินัลว่า

sudo apt remove pandoc


วิธีการติดตั้ง โดยปกติจะดับเบิลคลิกไฟล์เพื่อเปิด package installer ให้ติดตั้งได้เลย แต่ถ้าไม่ได้ ก็ใช้วิธีติดตั้งผ่านเทอร์มินัล โดยพิมพ์ว่า

sudo dpkg -i ไฟล์ติดตั้งที่ดาวน์โหลด


เวอร์ชันที่ผมใช้ก่อนหน้านี้ การแปลงเป็น markdown กับ plain (text ข้อความธรรมดา) มันจะตัดแบ่งบรรทัดให้อัตโนมัติ ถ้าไม่อยากให้มันแบ่งต้องใส่ --wrap=none ไว้ด้วย เช่น

pandoc -t markdown-smart --wrap=none file-in.docx > file-out.md

หากแปลงเป็น html มันจะไม่ตัดบรรทัดให้ และผมก็เคยชินแบบนั้น แต่หลังจากที่อัปเดตมาเป็นเวอร์ชัน 3.3.1 ก็เจอว่าตอนแปลงเป็น html มันก็ตัดบรรทัดให้ด้วย ดังนั้นจึงต้องใส่แท็ก --wrap=none ไว้เช่นกัน

วันอังคารที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2567

[Google Sheets] ใช้ Google Sheets สร้าง QR Code แบบง่ายๆ

เราสามารถใช้ Google Sheets สร้าง QR Code แบบง่ายๆ ด้วยบริการจากเว็บ ซึ่งมีให้ใช้หลากหลายเว็บ บางเว็บจะมีฟีเจอร์เพิ่มเติม เช่น เปลี่ยนสีหรือทำพื้นหลังโปร่งใส ซึ่งต้องไปอ่านคู่มือของแต่ละเว็บดู ตัวอย่างเว็บที่มีบริการให้ใช้งานก็เช่น

https://quickchart.io/qr?text=test

https://api.qrserver.com/v1/create-qr-code/?data=test

https://qrcode.tec-it.com/API/QRCode?data=test

[ Keywords ]

QR Code, qrcode, Google Sheet, Google Sheets


วันเสาร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2567

การใส่ข้อมูลหนังสือ (metadata) ในไฟล์ ePUB ด้วยโปรแกรม Sigil

การใส่ข้อมูลหนังสือ (metadata) ลงในไฟล์ ePUB ก็เพื่อให้เราค้นหาหนังสือได้ง่ายและสะดวกต่อการจัดเก็บให้เป็นหมวดหมู่ ซึ่งอันที่โปรแกรมที่เราใช้เปิดอ่านหลายๆ ตัวจะสามารถเพิ่มข้อมูลเข้าไปได้เหมือนกัน หรือเราเอาไปเพิ่มในโปรแกรม Calibre ก็ได้

แต่กรณีที่เราสร้างไฟล์ ePUB ขึ้นเองด้วย Sigil เราก็สามารถใส่ลงไปได้เลยโดยไม่ต้องไปผ่านโปรแกรมอื่นๆ อีก

ข้อมูลจำเป็นที่ควรต้องใส่คือ ชื่อหนังสือ, ชื่อผู้เขียน (ผู้แปล), ภาษาที่ใช้

ข้อมูลเพิ่มเติมอื่นๆ ก็มี สำนักพิมพ์, แท็ก, ชุด (กรณีมีหลายเล่ม)

วันพฤหัสบดีที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2567

แก้ปัญหาอัปเดต libapt-pkg5.0

สั่งอัปเดต Calibre ไม่ได้อีกแล้ว (ในเครื่องโน้ตบุ๊กที่เป็น Elementary OS 5.1) มันขึ้นว่า

2024-08-08 12:52:33 URL:https://download.calibre-ebook.com/linux-installer.sh [34312/34312] -> "-" [1]

Using python executable: /usr/bin/python3

Your system has GNU libc version 2.31. The calibre binaries require at least version: 2.35 (released on 2022-02-03). Update your system.

เลยใช้วิธีเดิม  แก้ปัญหาอัปเดต Calibre ไม่สำเร็จ ที่เคยแก้ปัญหา ก็ปรากฏว่าแก้ไม่ได้

วันจันทร์ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2567

ติดตั้งไดรเวอร์สแกนเนอร์ Canon Pixma G2010

** อัปเดต 26 พฤศจิกายน 2568 : ใช้ Linux Mint 22 พอเสียบเครื่องปรินท์ มันก็มองเห็นอัตโนมัติ พร้อมใช้งานได้เลย **

โน้ตบุ๊กตัวที่เป็น elementary OS 6.1 Jólnir (built on Ubuntu 20.04 LTS) เคยติดตั้งไดรเวอร์ของเครื่องปรินท์ Canon Pixma G2010 ตั้งแต่หลายปีก่อน ผลคือใช้ปรินท์ได้ แต่สแกนไม่ได้


ด้วยความที่สมัยก่อนไม่ได้มีอะไรที่จะสแกนมากนัก เลยไม่ได้หาวิธีต่อ ไปใช้เครื่องคอมฯ ที่เป็น Windows สแกนแทน

ช่วงสองปีที่ผ่านมาเริ่มมีเก็บภาพเอกสารเป็นดิจิทัล แต่ใช้วิธีการถ่ายภาพเอา แล้วสัก 2 เดือนมานี้เริ่มต้องการคุณภาพที่ดีขึ้น เลยปรับวิธีการถ่ายภาพเก็บ

ตอนแรกใช้แอป vFlat ที่นิยมสำหรับการถ่ายหนังสือเพื่อทำไฟล์ pdf แต่มันมีข้อเสียคือทำให้สัดส่วนไฟล์เอกสารเบี้ยว ต่อมาก็เริ่มมาใช้เครื่องสแกนเนอร์ของ printer ตัวประจำที่ใช้อยู่ แต่ต้องไปสแกนผ่านคอมฯ ที่เป็นระบบ Windows

แล้ววันนี้เลยนึกว่าลองหาวิธีทำให้เจ้าเครื่องปรินท์ตัวนี้สามารถแสแกนบน Linux ได้ดูอีกทีละกัน ค้นไปค้นมาแล้วลองทำตามดู โอเค…ใช้ได้!

เลยมาจดบันทึกขั้นตอนเอาไว้